วันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2553

คำวิจารณ์ของเพื่อน

เพื่อนของคุณอาจจะเป็นคนที่คุณสนิทชิดเชื้อยิ่งกว่าพี่น้อง หรือพ่อแม่ คำวิจารณ์หรือคำแนะนำของเพื่อนจึงเป็นสิ่งที่น่าคิดไม่น้อย แต่บางครั้งคำวิจารณ์ของเพื่อนทำให้คุณหงุดหงิด เสียความรู้สึก และกดดันให้คุณรู้สึกเครียดยามที่เพื่อนจะเอื้นเอ่ยกับคุณ



แต่เมื่อเพื่อนเป็นคนที่นับว่าใกล้ชิดคุณที่สุดหรืออย่างน้อยก็เกือบที่สุด เขาจึงเป็นคนที่เห็นหรือสัมผัสกับคุณได้ดีกว่าใคร บางทีเขาอาจเห็นในสิ่งที่แม้แต่ตัวคุณเองไม่เคยรู้ แม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งที่อยู่ในตัวของคุณ ซึ่งคุณคิดว่าเขาจะมารู้ดีเกินคุณได้อย่างไร แต่น่าแปลกที่เพื่อนกลับเป็นและอาจมองในมุมที่ต่างออกไป ซึ่งบางครั้งก็จะเป็นประโยชน์กับคุณ ถ้าคุณเปิดใจรับฟัง และยอมรับว่าเพื่อนหวังดีกับตัวคุณจริง ๆ จึงกล้าพูดในสิ่งที่ใคร ๆ ก็อาจไม่อยากฟัง

น่าเสียใจซะอีกถ้าคุณมีเพื่อนแต่เพื่อนประเภทเออออห่อหมก เจอหน้ากันก็เอออวยกันไปเสียทุกเรื่อง เพื่อนแบบนี้อาจจะทำให้คุณรู้สึกดี เพียงชั่วคราว แต่ระยะยาวแล้วคุณจะรู้ว่าตัวคุณกลับไม่ต้องการเพื่อนประเภทนี้เลย และจงรักษาสัมพันธ์อันดีระหว่างคุณกับเพื่อนผู้ให้คำวิจารณ์ดี ๆ กับคุณ รับรองว่าคุณจะไม่มีผิดหวังที่คบกับเขาต่อไป

เพื่อเพื่อนแล้ว ... ไม่มีคำว่าปฏิเสธ

ถ้าเป็นเรื่องง่าย ๆ อย่างการปฏิเสธว่าไม่ ...เพราะอิ่มแล้ว สำหรับเพื่อนของคุณก็คงไม่ทำให้คุณลำบากใจนัก แต่บ่อยครั้งคำว่าเพื่อนนี่เองทำให้คุณเครียดและกดดันเสมอ เมื่อคุณรู้สึกอยากปฏิเสธแต่เกรงว่าจะเสียน้ำใจเพื่อน




การบอกรับทุกอย่างทั้ง ๆ ที่คุณไม่ต้องการ สำหรับเพื่อนนั้นจะกลายเป็นความเคยชิน และเขาไม่ได้เรียนรู้ถึงนิสัยใจคอของคุณจริง ๆ และเขาคิดว่าคุณเป็นคนประเภท Say Yes! ตลอดกาล แต่ถ้าวันหนึ่งคุณลุกขึ้นมาปฏิเสธเขาก็คงต้องอึ้งแน่ ๆ และอาจจะเหมาว่าคุณนั้นเปลี่ยนไป (ในทางที่ไม่ดี)

คุณอย่าลืมว่าการเป็นตัวของตัวเองก็สำคัญไม่น้อย หากคุณคิดว่าคราวนี้ต้องปฏิเสธแน่แท้แล้วก็ไมจำเป็นต้องยกแม่น้ำทั้งห้าขึ้นมาอ้าง หรือโกหกไปร้อยแปดเพื่อหาข้ออ้างปฏิเสธเพื่อน มันไม่ได้น่าเกลียดนักหรอกถ้าคุณจะบอกปัดเพื่อนว่า คุณไม่ไปเพราะต้องการพักผ่อนอยู่กับบ้านบ้าง หรือคุณคงช่วยในเรื่องนี้ไม่ได้ เป็นเพราะเรื่องนี้ไม่ควรเข้าไปก้าวก่าย แต่คุณก็ต้องไม่ลืมว่าการปฏิเสธของคุณจะต้องนิ่มนวล เพราะเพื่อนคุณคือคนสำคัญ แต่ถ้าเพื่อนของคุณดูว่าเข้าใจยากหรือพากโกรธคุณ คุณต้องพิจารณาเขาอีกทีแล้วว่า เขากับคุณควรรักษาสัมพันธ์ภาพไว้ในระดับไดบ้าง

เพื่อน...ผู้มากับความเครียด

บางครั้งความเครียดไม่ได้มาจากตัวคุณเสมอไป เพราะคนที่ใก้ชิดคุณมาก ๆ โดยเฉพาะเพื่อนของคุณนั่นแหละที่มักจะนำความเครียดมาแบ่งให้คุณเสมอ แต่เพราะความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนนั้นเป็นความสัมพันธ์ที่ต้องทะนุถนอม และต้องหมั่นดูแลกันและกันให้คงอยู่ตลอดไป



ความสัมพันธ์ของคู่รักอาจจะเลิกรากันชั่วข้ามคืนและไม่มีทางหวนคืนมา แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนแม้จะกระทบกระทั่งกันบ้างแต่็มัีกจะกลับมาคืนดีกันได้ และคุณก็จะพบเห็นเสมอว่ามีคนที่เคยเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเด็ก แต่พวกเขายังคงรักษาสัมพนธ์ภาพระหว่างเพื่อนไว้จนกระทั่งพวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ หรือพวกเขามีครอบครับของตัวเขาเอง ลูกหลานของพวกเขายังคงผูกมิตรกันด้วย

การแชร์ความเครียดของเพื่อนอาจเป็นสิ่งที่เพื่อนควรทำ แต่คุณต้องรู้วิธีที่จะไม่ทำให้ตัวเองรู้สึกแย่ไปด้วย และัเมื่อเพื่อนทำให้คุณเสียใจหรือผิดหวัง คุณต้องมีวิธีรับมือกับความรู้สึกนั้นให้ได้

สิ่งที่สำคัญที่คุณควรคำนึงเป็นอันดับแรกคือ การยอมรับว่าตัวคุณรู้สึกกับสิ่งนั้น ๆ อย่างไร โดยนำความรู้สึกจริง ๆ เข้าจับ อย่าโกหกหรือหลอกความรู้สึกตนเอง หากคุณคิดว่าสิ่งที่เพื่อนทำนั้นทำให้คุณเจ็บปวดเสมอ ทั้งที่เขาเองตั้งใจหรือไม่ก็ตาม การเงียบไว้โดยไม่พูด ไม่ปรับความเข้าใจ หรือไม่แสดงออกให้เขารู้เลย ย่อมเป็นการทำร้ายตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเมื่อคุณมองหน้าเพื่อนคราใด คุณอาจจะรู้สึกว่าเขาน่าจะเป็นเพื่อนของคุณ หรือเป็นเพียงแค่คนรู้จักดีั

ให้โอกาสตัวเอง และกล้าที่จะบอกกล่าวเพื่อนด้วยความหวังดี เพราะสุดท้ายและที่ได้ผลคือ ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนที่เข้่าใจกันและยั่งยืนตลอดไป


หาเหตุผลที่ทำให้รักงาน


การทำอะไรสักอย่างบางครั้งก็ต้องใช้เหตุผลเข้ามาช่วยบ้าง เพื่อให้เราได้เห็นสิ่งนั้นชัดเจน และตระหนักในคุณค่าของสิ่งนั้นมากขึ้นโดยเฉพาะเรื่องการงาน

ถ้าคุณเป็นคนทำงานแบบให้จบวันไปโดยไม่รู้สึกอะไรพิเศษกับสิ่งที่ทำอยู่ คุณก็ย่อมต้องเบื่อ เซ็ง หรือเครียดกับสิ่งที่คุณได้เลือกเอง แน่นอนว่าคุณจะไม่มีความรู้สึกว่าท้าทายหรือมีอะไรแปลกใหม่เลย

ลองหาเวลาว่างสักนิดเขียนสิ่งดี ๆ ในงานที่คุณทำออกมาแม้สิ่งนั้นอาจเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ดูไม่ค่อยจะมีใครคิดถึง แต่คุณสามารถคิดถึงมันได้ ก็แสดงว่าคุณมีสายตาพิเศษที่มองเห็นความสำคัญของทุกอย่าง แม้ว่าอาจจะเห็นช้าอยุ่สักหน่อย แต่ก็ยังดีกว่าคนที่พูดว่างานของเขาไม่เห็นจะมีอะไรดีสักอย่าง ซึ่งในความเป็นจริงเป็นไปไม่ได้หรอกว่าจะมีอะไรแย่ไปทั้งหมด เพราะในสิ่งที่เราคิดว่าเลวร้ายที่สุด ก็ต้องมีอะไรดี ๆ แฝงไว้อยู่บ้าง เพียงแต่ต้องใช้เวลาและใจที่เปิดกว้างรับรู้มันเท่านั้นเอง



ลองมาดูกันว่าเหตุผลที่คุณหาได้ว่างานคุณมีอะไรดี ๆ บ้างตรงกับเหตุผลต่อไปนี้บ้างไหม

  • ยูนิฟอร์มของบริษัทนั้นสวยใช้ได้
  • บริษัทแม้ไม่ใหญ่โตมากนักแต่ถือว่ามั่นคง และน่าจะฝากชีวิตไว้ได้ถ้าคุณคิดว่าจะอยู่ต่อไปนาน ๆ
  • ดูแล้วน่าจะมีทางเจริญในหน้าที่การงานได้ แม้ว่าไม่ใช่ตำแหน่งในระดับสูงก็จริง แต่ก็เป็นตำแหน่งที่คุณได้รับผิดชอบมากขึ้น
  • เป็นที่ที่คุณได้แสดงความเห็นดี ๆ เสมอ แม้ว่าบางครั้งจะถูกปฏิเสธ แต่บ่อยครั้งเขาก็รับฟังความคิดเห็นของคุณและเอาความคิดเห็นของคุณไปสานต่อ
  • การทำงานทำให้คุณได้ใช้ความสามารถและแสดงฝีมืออย่างเต็มที่
  • เมื่อได้รับโบนัสแม้จะเป็นก้อนเล็ก ๆ แต่ก็ทำให้คุณรู้สึกภูมิใจและอิ่มใจเสมอ
  • สวัสดิการพนักงานก็พอมี และพอช่วยให้คุณประหยัดอะไร ๆ ไปได้ตั้งหลายอย่าง
  • งานเลี้ยงสังสรรค์ของบริษัทสนุกดี และคุณก็รู้สึกว่าเป็นวันพิเศษที่รอคอย
  • งานที่ทำนั้นทำให้คุณได้พัฒนาตัวเองเสมอ
  • แม้งานที่ทำอยู่ไม่ได้เป็นงานที่คุณรักมากมายนัก แต่คุณก็ทำได้ดีจนตัวเองพอใจ
  • งานที่คุณทำให้ประโยชน์กับคนอื่นด้วย
  • เจ้านายและเพื่อนร่วมงานก็ดีกับคุณพอสมควร
  • ค่าตอบแทนของบริษัททำให้คุณอยู่ได้แบบสบาย ๆ แม้ไม่สามารถฟุ้งเฟ้อได้ แต่สามารถทำให้คุณสามารถจับจ่ายใช้สอยสิ่งจำเป็นต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก
  • นโยบายบริษัทดีต่อพนักงานและดูก้าวไกลได้
  • บรรยากาศในที่ทำงานสนุกสนานดี ไม่ได้คร่ำเครียดจนคุณรู้สึกกดดัน
  • สถานที่รอบ ๆ ที่ทำงานก็สะดวก มีที่กินที่ช้อปปิ้งอย่างมากมายให้เลือกสรร
แม้ว่าคุณจะมีงานอิสระที่คุณอาจจะทำอยู่ที่บ้าน หรือเป็นเจ้าของกิจการอะไรก็แล้วแต่ ถ้าคุณเกิดความเครียดขึ้น คุณต้องมองหาสิ่งดี ๆ ในงานที่คุณทำนั้นมีอะไรบ้าง บางทีคุณอาจจะรักในงานที่ทำมากขึ้น และรู้ว่าคุณตัดสินใจถูกแล้วที่เลือกงานนี้

วันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เหนื่อยนักก็พักผ่อน

น่าตกใจที่หลายคนทำงานจนลืมพักผ่อน บางทีก็หอบงานกลับไปทำต่อที่บ้าน บ้างก็เหนื่อยแทบตายแต่ไม่กล้าแม้จะขอลาสัก 1 วันและที่น่าสงสารที่สุดคือการที่เขาไม่ยอมพักบ้างเลยก็เป็นเพราะเขาคิดว่าการจะเป็นพนักงานที่ดีเด่น หรือพนักงานตัวอย่างได้ ก็คือคนที่ไม่สาย ไม่ลา และไม่หยุดทำงานสักวัน ทั้ง ๆ ที่ความเหนื่อยและความเครียดก็ก่อตัวมากขึ้นทุกที



การลางานสักวันหรือลาในช่วงพักร้อนเป็นสิทธิ์ที่สมควรใช้อยุู่แล้ว อย่าได้ใส่ใจกับคำพูดของเพื่อนร่วมงานที่ว่า เธอต้องทำงานแทนคุณ คุณทิ้งภาระให้เธอ หรือเพื่อนร่วมงานที่อวดว่าเธอไม่ยอมหยุดงานเลยเพราะรักบริษัทสุด ๆ

การตัดสินใจขึ้นอยู่กับคุณทุกอย่าง เมื่อใครก็ตามเหนื่อยเต็มที่เขาก็มีทางเลือกว่าจะหยุดสักนิดหรือไปต่อ แต่การหยุดสักนิดอาจดีกว่าเพราะคุณจะได้พักอีกสักหน่อยเพื่อเอาแรง และพร้อมกับการก้าวต่อไปที่ง่ายกว่า

แล้วคุณย้อนคิดดูสักครั้งสุดท้ายที่คุณได้ฟังเสียงคลื่นลม หรือชมดวงอาทิตย์ตกในสถานที่สวยงามและสุขสงบนั้น ... มันนานแค่ไหนแล้วเขียว

งานที่ต้องแข่งกับเวลา

การที่ต้องทำงานที่มีเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ย่อมกดดันให้คุณรู้สึกเครียดเป็นธรรมดา ความเร่งรีบและร้อนรน รู้สึกว่าใจนั้นไปแล้ว แต่กลับไม่สามารถทำให้เร็วดังใจคิดได้ หลายครั้งที่คุณรู้สึกแย่ ๆ กับตัวเอง



การจะบอกว่าให้คุณทำงานให้ช้าลง คงน่าขันแน่น เพราะขนาดคุณรีบแทบตายยังเอาตัวเกือบไม่รอด แต่คุณเชื่อไหมว่าการช้าลงเพียง 1-2 นาทีนั้นไม่ได้ทำให้คุณทำงานได้เร็วขึ้นนักหนาหรอก แต่คุณกลับมีเวลาคิด รวมทั้งยั้งตั้งสติขได้ดีกว่าคุณเร่งทำทุกอย่างพร้อม ๆ กันโดยที่ผลงานออกมาไม่ดีนัก และคุณก็สุดเครียดจนกลับบ้านไปก็นอนหลับไม่สนิท

ทางออกที่ดีที่สุดก็คือหัดเตือนตัวเองให้ทำทุกอย่างให้ช้าลงจนเป็นนิสัย ทั้งกิจวัตรที่บ้านและการงานของคุณ การทำช้า ๆ จะช่วยให้คุณไม่ได้เป็นคนที่ปั่นหัวตัวเองโดยไม่ตั้งใจ และจิตใจของคุณก็จะเบาขึ้น รู้สึกกสบาย แม้อยู่ในภาวะกดดันที่สุดได้

ตกงานนาน ... จนเครียด



คุณเป็นคนหนึ่งหรือเปล่าที่เคยถูก Lay Off ถ้ายังไม่เคยคุณก็เป็นคนเชยสุด ๆ ในยุคนี้ เพราะไม่ว่าจะหันหน้าไปทางไหน คุณก็จะพบแต่พ่อค้าแม่ขายที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นพนักงานกินเงินเดือน หรือมีตำแหน่งหน้าที่การงานใหญ่โต

การว่างงานก็เป็นเหตุให้เครียดได้มาก แม้ว่าคนที่ตกงานนั้นมีฐานะร่ำรวย ไม่ได้ต้องการเงินเลี้ยงชีพ เพราะมีฐานะทางบ้านคอยค้ำจุนอยู่แล้ว แต่ความเครียดก็เกิดขึ้นได้เมื่อคุณรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า ไม่มีงานให้รับผิดชอบเหมือนคนอื่น

แต่ความรู้สึกด้อยค่าเพราะว่างงานนั้นสามารถปรับเปลี่ยนเป็นความมีค่า และยังคงตระหนักในศักยภาพของตัวเองได้ เพราะคนที่ว่างงานไม่ได้หมายความว่าเขาถูกปฏิเสธ หรือไม่มีความสามารถพอ แต่ถ้าความพยายามในการจะหางานนั้นเต็มที่แล้ว ก็เป็นไปได้ว่าเขาอาจอยู่ในที่หรือเวลายังไม่เหมาะ ยังไม่ใช่วันของเขา แต่โอกาสที่เขามีก็คือเขามีโอกาสตัดสินใจ หรือเลือกว่างานใดเหมาะกับเขาอย่างแท้จริง เขาจึงควรใช้เวลาว่างนี้อย่างมีประโยชน์ที่สุด โดยไม่ปล่อยเวลาให้เสียไปโดยไม่ทำอะไรเลยขณะที่เฝ้ารอ และชีวิตที่ว่างงานของเขาก็จะไม่ว่างอีกต่อไป